เลนส์ชั้นเดียว NIKON อัปเดตราคาล่าสุด
วันนี้แอดมินขอพามาอัปเดตราคาเลนส์ชั้นเดียวจากแบรนด์ NIKON เลนส์ชื่อดังจากประเทศญี่ปุ่นกันค่ะ
เลนส์ชั้นเดียว (Single Vision Lens) คืออะไร ?
หลายคนอาจจะสงสัยว่า เอ๊..เลนส์ชั้นเดียวนี่คือเลนส์อะไรและเหมาะกับใครบ้างนะ เพราะฉะนั้นก่อนอื่นต้องขออธิบายก่อนนะคะว่าเลนส์ชั้นเดียว หรือ Single Vision Lens คือเลนส์แว่นสายตาที่มีเพียงค่าสายตาเดียว สามารถทำให้มองเห็นชัดได้ในระยะหนึ่งเท่านั้น เรียกง่าย ๆ ว่าเหมาะกับคนที่มีปัญหาสายตาสั้นล้วนหรือปัญหาสายตายาวล้วนนั่นเอง
ซึ่งเลนส์ NIKON ก็เป็นหนึ่งในเลนส์สายตาที่ได้รับการยอมรับมาอย่างยาวนาน มีหลายรุ่นให้เลือกได้ตามปัญหาค่าสายตา ดังนี้

สำหรับเลนส์รุ่นเริ่มต้นของ NIKON ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 3,900 บาทเท่านั้น

1. AS ASPHERIC
เป็นเลนส์รุ่นเริ่มต้นที่มีทั้งเลนส์สต็อกและเลนส์แลปให้เลือก โดยถูกออกแบบให้มีความโค้งพิเศษ เพื่อลดความคลาดเคลื่อนของภาพ และให้การมองเห็นที่คมชัดเป็นธรรมชาติมากขึ้น เหมาะกับผู้ที่ต้องการเลนส์บาง เบา ด้วยการผลิตโดยโครงสร้าง Aspheric ทำให้ได้ภาพบิดเบือนที่น้อย และมองภาพได้เสมือนจริงมากกว่าเดิม
- จุดเด่น:
- เป็นเลนส์ที่มีราคาเข้าถึงได้
- การขัดเลนส์แบบ Aspheric ซึ่งเป็นโครงสร้างการขัดเลนส์ที่ลดภาพบิดเบือนด้านข้างมากขึ้น
2. MyopSEE
เลนส์ชั้นเดียวที่เหมาะกับผู้มีปัญหาค่าสายตามาก ผลิตเลนส์ระบบ 2-Axis (การขัดเลนส์ 2 แกน) สำหรับคนที่กังวลเรื่องค่าสายตามากจนทำให้เกิด ‘เอฟเฟ็กต์ตาเล็ก’ แอดมินขอแนะนำเป็นเลนส์รุ่นนี้เลยค่ะ เพราะเค้ามีเทคโนโลยีที่ช่วยขจัดภาพบิดเบือนเมื่อคนนอกมองผ่านเลนส์เข้ามา ทำให้เป็นการลดปัญหาใส่แว่นแล้วตาหดได้ เชื่อว่าเรื่องนี้ก็เป็นเรื่องที่ทีมค่าสายตาสูงกังวลกันอยู่ไม่น้อยเลย
- จุดเด่น:
- การขัดเลนส์แบบ Double Aspheric Designs คือกการขัดเลนส์หน้าหลัง ทำให้ได้เลนส์ที่บางและเบา ได้เลนส์บางลง 16% และเบาลง 11% เมื่อเทียบกับเลนส์ทั่วไป
- ได้มุมมองที่แม่นยำ ลดปัญหาภาพผิดเพี้ยนที่ชอบเกิดรอบขอบเลนส์ได้
- ป้องกันแสงสะท้อนทั้งหน้าเลนส์และหลังเลนส์
- ลดเอฟเฟ็กต์ลาเล็ก สำหรับผู้ที่มีค่าสายตาสั้นเยอะ

3. SEE MAX INFINITE
สำหรับเลนส์รุ่นนี้เหมาะกับผู้ที่มีค่าสายซับซ้อนและค่าสายตาต่างกันมากทั้งสองข้าง ด้วยการผลิตเลนส์ระบบ Freeform Digital แบบ 8-Axis (การขัดเลนส์ 8 แกน) ให้มุมมองภาพที่ดีเกือบจะทั้งเลนส์ ลดค่าบิดเบือนด้านข้างได้ดีมาก ทำให้ผู้ใช้งานสวมใส่สบายแม้จะมีปัญหาค่าสายตาที่เยอะ โดยมีเทคโนโลยี SeeMax Infinite ที่ช่วยปรับแต่งเลนส์เฉพาะบุคคลภายในพื้นที่รูปทรงเลนส์ที่เลือก โดยใช้พื้นผิวเลนส์แบบ Free-Form และเทคโนโลยี Conventional Lens ที่ออกแบบโดยอิงจากเส้นผ่านศูนย์กลางมาตรฐานของเลนส์
- จุดเด่น:
- มีการผลิตเลนส์ระบบ Freeform ทำให้ได้เลนส์เฉพาะบุคคล
- การขัดแบบ 8 แกน ช่วยให้ได้มุมมองภาพที่กว้างขึ้น ช่วยลดภาพบิดเบือนด้านข้างมากขึ้น
- ให้ความสบายตาในการสวมใส่ถึงแม้จะมีค่าสายตาเยอะและซับซ้อน
- ลดแสงสะท้อนทั้งด้านหน้าและหลังของเลนส์
สำหรับในยุคดิจิตอลการสวมใส่เลนส์สายตาชั้นเดียวทั่วไปเริ่มจะไม่ตอบโจทย์การใช้งาน โดยเฉพาะผู้ที่มีปัญหาอาการตาล้า และผู้ที่มีค่าสายตาเพ้งเข้ามา ซึ่งสามารถแก้ไขได้ด้วย Anti-fatigue lens จะช่วยในการลดความเมื่อยล้าของด้วยตา ให้อาการเพ้งน้อยลง โดย NIKON เลนส์เฉพาะทางนี้เช่นกัน
1. Relaxsee NEO เลนส์ที่ออกแบบมาเพื่อบรรเทาอาการเมื่อยล้าของดวงตา เหมาะสำหรับผู้มีอาการตาล้าเวลาอยู่หน้าจอนานๆ โดยตัวเลนส์จะแบ่งเป็น 2 โซน ซึ่งในส่วนบนของเลนส์จะได้้คววามมคมชัดที่เหมาะสมกับค่าสายตาของผู้ใช้และด้านล่างของเลนส์จะเป็นโซนที่ช่วยผ่อนคลายสายตา ซึ่งการใส่จะมีการเหลือบตาลงมาเล็กน้อยในการใช้งาน โดยมีเลลนส์ที่ช่วยบรรเทาอาการปวดตาสำหรับทุกวัย
- คุณสมบัติเด่น :
- ใช้เทคโนโลยี Twin Technology ช่วยให้การมองเห็นระยะไกลคมชัดและการมองเห็นระยะใกล้เป็นธรรมชาติ ลดอาการปวดตาเมื่อมีการเพ่งเป็นเวลานาน
- ลดอาการตาล้า ปวดตา ปวดศีรษะที่เกิดจากการจ้องหน้าจอเป็นเวลานาน
Relaxsee NEO แบ่งเป็น 4 รุ่นนด้วยกัน
1. Relaxsee NEO Air :
- อายุ 15-30 ปี
- ผู้สวมใส่ที่ใช้สายตาระยะใกล้เวลานาน
- มีค่า ADD ได้สูงสุด 0.50D
2. Relexsee NEO Lite :
- อายุ 30-40 ปี
- ผู้สวมใส่ที่เริ่มมีอาการปวดตา
- มีค่า ADD ได้สูงสุด 0.75D
3. Relexsee NEO :
- อายุ 40-45 ปี
- ผู้สวมใส่ที่รู้สึกมีอาการปวดตาเป็นประจำทุกวัน
- มีค่า ADD ได้สูงสุด 1.00D
4. Relexsee NEO Super :
- อายุ 45-50 ปี
- ผู้สวมใส่ที่มีอาการปวดตาอย่างรุ่นแรง
- มีค่า ADD ได้สูงสุด 1.25D
สรุป
- Nikon SeeMax Infinite: เหมาะกับผู้มีปัญหาสายตาที่เยอะและซับซ้อน ผลิตเลนส์ระบบ Freeform Digital แบบ 8-Axis ลดภาพบิดเบือนได้ดีที่สุด ได้มุมมองการมองเห็นที่ดีเยี่ยมและให้ความสบายตาในการมองเป็นพิเศษ
- MyopSEE ตัวเลนส์บางเบา มีความใสพิเศษ เหมาะกับคนที่มีค่าสายตาเยอะและเกิดปัญหาใส่แว่นแล้วเกิด ‘เอฟเฟคตาเล็ก’
- AS ASPHERIC เลนส์ทั่วไป เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาค่าสายตาสั้นหรือยาวตามปกติ
- Relaxsee NEO มีเทคโนโลยี Twin Technology เหมาะกับผู้ที่ต้องใช้งานอุปกรณ์ดิจิทัลเป็นเวลานาน หรือผู้ที่มีอาการตาล้าเมื่อเพ่งระยะใกล้ ซึ่งมีค่า ADD เล็กน้อย
ส่วน Option ที่สามารถเพิ่มได้ในเลนส์ชั้นเดียว
1. Digital Lover: สำหรับผู้ที่ต้องใช้สายตาหน้าจอดิจิตอลสำหรับสำหรับทำงานและต้องการความผ่อนคลาย ทั้งยังป้องกันแสงสีน้ำเงินที่เป็นอันตรายต่อดวงตา ซึ่งมีให้เลือกถึง 2 รุ่นด้วยกัน
- Pure Blue UV: ป้องกันแสงสีฟ้าที่เป็นอันตรายจากหน้าจอดิจิตอล โดยตัดแสงสีน้ำเงินอันตรายออกประมาณ 40% เลนส์ใส คมชัด ให้โทนภาพไปทาง Cool Image สีเหลืองเพี้ยนน้อยที่สุด ทำให้การมองผ่านเลนส์เป็นไปอย่างธรรมชาติ สามารถใช้คู่กับคุณสมบัติ Transition (เลนส์เปลี่ยนสีอัตโนมัติเมื่อออกแดด) ได้
- See Coat Next Blue: เป็นการรวมกันของ Coating See Coat Next ที่มีความแข็งแรง สามารถทำความสะอาดได้ง่าย ลดรอยนิ้วมือ ทำความสะอาดง่าย พร้อมสารเคลือบป้องกันรอยขีดข่วน กับการป้องกันแสงสีน้ำเงินที่เป็นอันตรายเข้าไป ช่วยป้องกันแสงสีน้ำเงินที่เป็นอันตราย พร้อมป้องกัน UV ได้ดีที่สุด
- New! See Coat Next Reveal: เป็น Coating See Coat Next ตัวล่าสุดที่เพิ่ม Contrast Boost Technology เพื่อให้การปรับคอนทราสต์ได้ดีขึ้น ให้เห็นภาพที่ชัดเจนในที่แสงน้อย พร้อมเทคโนโลยีกรองแสงโดยฝังโมเลกุลในเนื้อเลนส์ เพื่อกรองรังสี UV และแสงสีน้ำเงินที่เป็นอันตรายทั้งภายในและภายนอกอาคาร

2. Night Navigator:
- See Coat Drive: เป็นเลนส์สำหรับผู้ที่มีปัญหาขณะขับรถเวลากลางคืนบ่อยๆ ซึ่งช่วยตัดแสงฟุ้งในเวลากลางคืนให้สบายตามากขึ้น
3. Life Balance: เลนส์เปลี่ยนสี
- New! Transitions Gen S : เป็นเทคโนโลยีเดียวกับ Essilor ซึ่งเป็นรุ่นเลนส์เปลี่ยนสีที่มีสีให้เลือกมากถึง 7 สีด้วย โดยแบ่งเป็นสี Signature 3 สี ได้แก่ Grey, Brown, Graphite Green และสี Fashion 5 สี ได้แก่ Amber, Sapphire, Emerald, Amethyst, Ruby (สีแดงทัมทิม สีล่าสุด)

- Transitions XTRActive : เลนส์เปลี่ยนสีเข้มพิเศษ และยังสามารถเปลี่ยนสีได้แม้อยู่ในรถ มีให้เลือกทั้งหมด 3 ปี ได้แก่ Grey, Brown, Graphite Green
- Transitions XTRActive Polarized: เลนส์เปลี่ยนสีเข้มที่สุด ทั้งยังเป็นเลนส์ที่ป้องกันแสงสะท้อนได้ด้วย มีแค่สี Grey เท่านั้น
หากลูกค้ายังไม่แน่ใจว่าเลนส์ตัวไหนที่จะเหมาะกับสายตาของตัวเองมากที่สุด สามารถเข้ามาปรึกษากับนักทัศนมาตรที่ Moshi Optic ทุกสาขา หรือทักเข้ามาสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้เลยนะคะ
ร้านของเราตรวจวัดสายตาโดยนักทัศนมาตร พร้อมรับประกันค่าสายตา 60 วัน
รับประกันกรอบสายตา 1-2 ปี และเลนส์สายตา (Coating) 1 ปีเต็ม
พร้อมรับส่วนลดสูงสุดถึง 30%
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
Line : @sunglass365
FB: Moshi optic by sunglass365, Sunglass365
IG: moshi.optic
TikTok: moshi.optic
📣Moshi Optic by sunglass365
📞Tel สาขาพระราม 1 : 097-195-0624
📞Tel สาขาแจ้งวัฒนะ : 095-325-5444
📞Tel สาขารามคำแหง : 083-073-9808