ปัจจุบันการจะหาแว่นมาใช้สักตัวทำได้ง่ายแทบไม่ต่างกับการซื้อของในร้านสะดวกซื้อ มีทั้งที่เป็นแว่นสั่งตัดคนต่อคน ได้จากการวัดสายตาอย่างละเอียดและลองใส่แล้วจึงสั่งตัดตามค่าสายตาและพารามิเตอร์ที่สำคัญของแต่ละบุคคล หรือที่เป็นแบบสำเร็จรูปวางขายตามร้านทั่วๆไป หรือแม้กระทั่งแว่นสำเร็จรูปที่ขายบนโลกออนไลน์ที่ง่ายมากต่อการเข้าไปช็อปปิ้ง แล้วทั้งแว่นสั่งตัดกับแว่นสำเร็จรูปแตกต่างกันอย่างไร วันนี้ Sunglass365 Optical Store จะพาไปดูข้อดีข้อเสียของแต่ละแบบกัน โดยจะขอพูดใน 3 แง่มุมหลักๆ คือ
1.พารามิเตอร์(Parameter) การที่จะได้แว่นตาที่ดีและมีความเหมาะสมกับตาของเรานันจะประกอบด้วยพารามิเตอร์ที่สำคัญหลายตัว เช่น
Pupil Distance (ระยะห่างระหว่างตาทั้ง 2 ข้าง) โดยจะใช้ PD แบบ Monocular PD ที่วัดจากกึ่งกลางจมูกถึงกึ่งกลางตาดำแบบแยกข้าง ซึ่งคนส่วนใหญ่ไม่ได้มี PD ที่เท่ากัน
- ข้อดีของแว่นสั่งตัด มีการวัดอย่างละเอียดแบบแยกข้างวัดในคนแต่ละคนจะทำให้ได้แว่นที่มีจุดศูนย์กลางการมองตรงกับจุดศูนย์กลางตาของคนคนนั้น
- ข้อเสียของแว่นสั่งตัด การวัดที่ละเอียดย่อมใช้เวลานานกว่า
- ข้อดีของแว่นสำเร็จรูป ไม่มีการวัด PD จึงสะดวกรวดเร็ว
- ข้อเสียของแว่นสำเร็จรูป ได้แว่นที่จุดศูนย์กลางการมองไม่ตรงกับจุดศูนย์กลางตา เกิดปริซึมตามมาทำให้มีอาการปวดหัว ปวดตาได้ ส่งผลเสียโดยตรงในระยะยาว
Fitting height เป็นตำแหน่งสูงต่ำของตาดำ ต้องวัดแยกตาขวาและตาซ้ายเสมอเพราะตาของคนไม่ได้จะสมมาตรสูงต่ำเท่ากันในทุกคน จากนั้นจึงทำการสั่งตัดแว่นตามค่าที่วัดได้ ทำให้ได้แว่นสั่งตัดที่จุดศูนย์กลางของเลนส์วางสูงตรงกับกึ่งกลางรูม่านตาแต่ละข้าง จึงไม่เกิดปริซึมขึ้นทำให้มองได้สบายตา ส่วนในแว่นสำเร็จรูปนั้นได้ตั้ง Fitting height ที่คาดคะเนไว้(ไม่ได้ได้จากการตรวจวัดลักษณะสรีระจริงของผู้ใช้)เท่ากันทั้ง 2 ข้าง
ค่าพารามิเตอร์อื่นๆของกรอบแว่นที่เหมาะสมเพื่อคุณภาพและประสิทธิภาพในการใช้งานสูงสุดจะประกอบไปด้วย
- มุมเทหน้าแว่น (Pantoscopic Tilt)
- ความห่างจากเลนส์ถึงกระจกตา (Cornea Vertex Distance)
- ความโค้งหน้าแว่น (Face Form Angle)
แน่นอนว่าพารามิเตอร์ที่กล่าวมาไม่ได้มีการตรวจวัดในแว่นสำเร็จรูป ทั้งที่คนเรานั้นไม่ได้มีสรีระของใบหน้าหรือความสูงของใบหูที่เหมือนกัน แม้ในคนคนเดียวกันสรีระซีกซ้ายและขวาก็ไม่ได้สมมาตรกันซะทีเดียวเลย เพราะฉะนั้นการจะได้แว่นที่เหมาะสมกับเราที่สุดก็ควรจะได้รับการตรวจตามจริง และใช้รายละเอียดเหล่านี้สั่งตัดออกมาเป็นแว่นที่ตรงกับลักษณะสรีระของผู้ใช้
2.ค่าสายตาของแต่ละบุคคลคนส่วนใหญ่ไม่ได้มีค่าสายตาที่เท่ากันทั้ง 2 ข้าง บางคนมีสายตาสั้นไม่เท่ากัน บางคนมีสายตาเอียงไม่เท่ากันบางคนมีทั้งสั้น ยาว และเอียง ซึ่งแว่นประกอบนั้นไม่สามารถรู้ได้ว่าผู้ใช้จะมีสายตา 2 ข้างต่างกันเท่าไหร่ เพื่อไม่เป็นการยุ่งยากและสิ้นเปลืองต้นทุนแว่นประกอบจึงผลิตออกมาให้ 2 ข้างมีค่าเท่ากันเมื่อคนที่มีสายตา 2 ต่างกันไปใส่ก็จะรู้สึกว่าใส่ไม่สบาย ตาข้างนึงมองได้ชัดกว่าตาอีกข้าง ในรายที่แย่หน่อยก็พบว่าใส่แว่นเกินค่าสายตาที่แท้จริงของตัวเอง ตัวอย่างเช่น ข้างขวาสั้น -2.50 ส่วนข้างซ้ายสั้นเพียงแค่ -1.00 เมื่อไปเลือกซื้อแว่นประกอบ พอเลือกแว่น -1.00 ก็จะพบว่าข้างซ้ายพอชัดอยู่แต่ข้างขวาไม่ชัด แต่พอเลือก -2.50 จะทำให้เข้างขวาพอชัดอยู่แต่กลายเป็นว่าข้างซ้ายใส่เกินค่าสายตาตัวเองมาตั้ง -1.50 นอกจากจะไม่เป็นผลดีกับตาแล้วยังทำให้ปวดหัว ปวดตา ล้าตาได้
แต่หากได้รับการตรวจวัดอย่างละเอียดและสั่งตัดแว่นตามค่าจริงที่มีก็จะได้แว่นที่ตรงกับค่าสายตา มองเห็นชัดเจนทั้งสองตา 2 ตาทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพทำให้ใส่สบาย ไร้ปัญหาตามมาในระยะยาว
3. Option เสริม เพื่อให้เข้ากับ Lifestyle และแก้ปัญหาการใช้สายตาได้ตรงจุด โดยเทคโนโลยีปัจจุบันทำให้เราสามารถเลือก Option เสริมให้เลนส์แว่นได้หลากหลายเพื่อตอบสนองต่อการใช้งานและ Lifestyle ของแต่ละคนไม่ว่าจะเป็น- เลนส์มัลติโค๊ด(Multicoat) กันรอยขีดข่วน ลดแสงสะท้อน ป้องกัน UV ทำความสะอาดง่าย
- เลนส์ตัดแสงสีฟ้า(Blueblock) เพิ่มความคมชัด(contrast) และความสบายตาในขณะที่คุณใช้งานอยู่หน้าจอ
- เลนส์เปลี่ยนสี สีใสเมื่ออยู่ในร่มและเปลี่ยนสีเมื่อออกแดดหรือทำกิจกรรมกลางแจ้ง โดยเปลี่ยนระดับความเข้มของสีเลนส์ตามระดับความเข้มของแสง UV
- เลนส์ย้อมสี ย้อมสีเป็นแว่นกันแดดเพื่อการป้องกันดวงตาจากแสงแดดได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- Polarized เลนส์เคลือบ Polarized เป็นเลนส์ทางเลือกสำหรับทุกสภาวะแสงจ้า ช่วยลดแสงฟุ้งกระจายและเพิ่มความคมชัด เหมาะสำหรับกิจกรรมกลางแจ้ง
- Mirror Coating เลนส์ฉาบปรอท เพิ่มความโดดเด่นด้วยสีปรอทที่ทันสมัย
- เลนส์สำหรับขับรถตอนกลางคืน เพื่อให้มองเห็นได้คมชัดมากขึ้นในสภาวะแสงน้อย เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องขับรถตอนกลางคืน
นอกจากนี้ยังมีปัจจัยอื่นๆอีกไม่ว่าจะเป็นวัสดุ (Meterial) คุณภาพต่ำเพื่อลดต้นทุนการทำแว่นสำเร็จรูป Index ของเลนส์ที่ไม่สามารถเลือกได้ทำให้เลนส์มีความหนา ไม่สวยงาม ใส่แล้วรู้สึกไม่สบาย
ข้อควรระวัง หากตัดแว่นกับร้านที่ไม่ได้คุณภาพ ผู้วัดสายตา ผู้ประกอบแว่น ไม่มีความรู้หรือประสบการณ์มากพอ แว่นสั่งตัดราคาสูงคุณภาพที่ได้อาจจะเหมือนกับแว่นสำเร็จรูป การทำแว่นไม่ใช่เรื่องง่าย ผู้ตรวจวัดสายตาถึงควรจะเป็นนักทัศนมาตรที่ต้องใช้เวลาเรียนจบหลักสูตรถึง 6 ปี เพื่อมาวัดสายตาให้ลูกค้า ส่วนการ Fitting Parameter แว่นก็ต้องใช้เครื่องมือที่แม่นยำไม่แพ้กัน