วันนี้ทาง Sunglass365 Optical Store เราจะพาไปดูเทคโนโลยีทีละตัวที่อัดแน่นกันมาในเลนส์รุ่นนี้เริ่มตั้งแต่
1. Variable Inset เมื่อเรามองใกล้ ตาของเราจะเหลือบเข้ามาดังนั้นเพื่อประสิทธิภาพการใช้งานสูงสุด จึงมีเทคโนโลยีที่ออกแบบให้โซนการมองเห็นที่ดีที่สุดของเลนส์เยื้องตามแนวการเหลือบตาจากระยะไกลมาระยะใกล้ได้เหมาะสมกับการมองในระยะต่างๆ โดยคำนวณอินเซตจากค่าสายตามองไกลและค่าสายตายาวตามวัย(Addition)ที่เพิ่มเข้ามาเมื่อเรามองใกล้ ผลทำให้การมองในระยะกลาง-ใกล้กว้างขึ้น จากการเคลื่อนที่ของลูกตาอยู่ตรงกลางโซนใช้งานตลอดเวลา ทั้งนี้ทั้งนั้นเทคโนโลยีนี้จะคำนวณภายใต้ Standard PD (ระยะห่างระหว่างตาทั้ง 2 ข้าง) และระยะการใช้งานมองใกล้ 40 ซม.
2. PD Optimize Inset คนเราไม่ได้มี PD(ระยะห่างระหว่างตาทั้ง 2 ข้าง) และระยะใช้งานมองใกล้ที่เท่ากัน จึงมีการพัฒนาเพิ่มเทคโนโลยีการออกแบบอินเซ็ตให้เหมาะสมและเฉพาะบุคคลมากขึ้นจากการใช้ค่า PD แบบ Monocular PD ที่วัดจากกึ่งกลางจมูกถึงกึ่งกลางตาดำแบบแยกข้าง และเพื่อให้ได้พื้นที่การใช้งานในระยะต่างๆกว้างขึ้น ใช้งานได้เป็นธรรมชาติมากขึ้น จึงมีการดูลักษณะการเหลือบตาเข้าขณะมองใกล้ที่ระยะการใช้งานจริงของแต่ละคนร่วมด้วย ซึ่งจะมากหรือน้อยก็ขึ้นอยู่กับ PD ของแต่ละคน ในคนที่มี PD กว้าง ก็จะต้องเหลือบตาเข้ามากกว่าคนที่มี PDแคบ
3. Wavefront Technology เป็นเทคโนโลยีการคำนวณระดับสูงที่สามารถช่วยจัดการความคลาดเคลื่อนของแสงแต่ละสีที่หักเหไม่เท่ากัน(Aberration)ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และชดเชยตัวแปรต่างๆบนตัวกรอบเช่นความโค้ง ความเท และระยะห่างของเลนส์กับกระจกตา เพื่อนำไปออกแบบโครงสร้างเลนส์
4. Retina Focus Principle เทคโนโลยีที่คำนวณอ้างอิงจากตำแหน่งการสวมใส่จริงเพื่อชดเชยค่ากำลังในตัวเลนส์(Lens power) เพื่อให้แสงตกบนจอรับภาพ
(Retina)พอดี ทำให้ผู้สวมใส่ได้ภาพที่คมชัดและลดอาการเมื่อยล้าของสายตาเมื่อต้องใช้สายตาดูใกล้เป็นเวลานาน
5. HOA (High Order Aberration) สภาวะปกติตอนกลางวันรูม่านตาของคนจะหดทำให้แสงตกกระทบแค่ตรงกลาง แต่ในตอนกลางคืนโดยเฉพาะการขับรถนั้นหลายท่านอาจจะรู้สึกว่ามีการมองเห็นแย่กว่ากลางวัน เกิดจากการที่รูม่านตาของเราขยายอัตโนมัติเมื่อมีแสงน้อย แสงจึงเข้าตามากขึ้น เข้าไปตกกระทบทั้งตรงกลางและขอบของเลนส์ตาซึ่งมีการหักเหแสงไม่เท่ากัน เกิดความคลาดเคลื่อนของแสงขึ้น จึงมีการใช้ Wavefront technology มาคำนวณร่วมกับขนาดของรูม่านตา แล้วนำมาขัดชดเชยความคลาดเคลื่อนในระดับสูงบนตัวเลนส์ ทำให้ได้เลนส์ที่ให้ภาพคมชัดทั้งกลางวันและกลางคืน และช่วยลดแสงฟุ้งกระจายในเวลากลางคืน
6. ILT (Individual Lens Technology) Experience ด้วยประสบการณ์ในการเป็นผู้เริ่มต้นออกแบบโครงสร้างเลนส์ที่มีการใช้ค่าพารามิเตอร์ของกรอบแว่นมาร่วมคำนวณด้วยของ Rodenstock ไม่ว่าจะเป็นค่าความโค้งหน้าแว่น ความเทหน้าแว่น รวมไปถึงค่าระยะห่างระหว่างตัวเลนส์กับกระจกตา จึงทำให้ได้เลนส์ที่สามารถตอบโจทย์กับกรอบแว่นแบบต่างๆได้เป็นอย่างดี
7. 3D Freeform เทคโนโลยีการขัดเลนส์แบบใหม่ที่มีอิสระในการออกแบบค่อนข้างสูง ด้วยการใช้หัวเข็มที่มีขนาดเล็กมากในระดับไมครอน และควบคุมการขัดด้วยซอร์ฟแวร์บนคอมพิวเตอร์ที่ผ่านการคำนวณออกแบบโครงสร้างและชดเชยค่าคลาดเคลื่อนตัวแปรต่างๆที่มีความละเอียดซับซ้อนให้เข้ากับผู้ใช้งานแต่ละคน ทำให้การผลิตเลนส์มีความถูกต้องแม่นยำ
8. EyeLT technology เป็นเทคโนโลยีล่าสุดที่มีเฉพาะในเลนส์ของ Rodenstock เป็นการฉีกกฏและก้าวข้ามขีดจำกัดการผลิตเลนส์ที่เคยมีมา โดยการคำนวณชดเชยค่าสายตาเอียงและองศาเอียงที่เปลี่ยนไปขณะดูใกล้ ซึ่งช่วยให้การมองที่ระยะกลางและระยะใกล้คมชัดขึ้น และที่สำคัญยังให้มุมมองที่กว้างขึ้นจากเดิมถึง 25%
9. Spherical Optimization มีการนำเอาค่าสายตาสั้น-ยาวที่ชดเชยค่าสายตาเอียงทั้งหมดที่มีแล้วหรือที่เรียกว่า Spherical Equivalent มาร่วมออกแบบความโค้งหน้าเลนส์ (Base Curve) เพื่อคำนวณหาความคลาดเคลื่อนของค่าสายตาที่เกิดจาก Base curve effect และทำการชดเชยกำจัดความคลาดเคลื่อนดังกล่าว ทำให้ได้โครงสร้างเลนส์ที่ดีและเหมาะสมในทุกค่าสายตาสั้น-ยาว พร้อมกับครอบคลุมสายตาเอียงถึง -1.50 D
10. Unique Customization เรียกได้ว่าเป็นเทคโนโลยี Fully power-optimized progressive lens ที่สามารถจัดการ Base curve effect ในค่าสายตาสั้น ยาว และเอียงได้อย่างเต็มที่และสมบูรณ์แบบโดยมีการนำค่าสายตาสั้นหรือยาวจริง สายตาเอียงจริง รวมไปถึงแกนขององศาเอียงจริง พร้อมทั้งใช้ตัวแปรจริงอื่นๆของผู้ใช้แต่ละคน เช่น ค่าสายตายาวตามวัย ค่าPD หรือค่าพารามิเตอร์เฉพาะของกรอบแว่นเช่น ความโค้ง มุมเท หรือระยะห่างของแว่นกับกระจกตา เพื่อคำนวณออกแบบหาโครงสร้างที่ดีที่สุด แล้วจึงนำไปขัดด้วยเทคโนโลยี Freeform ที่มีความแม่นยำสูงทำให้โครงสร้างที่ได้ดีเยี่ยมในทุกค่าสายตา
นอกจากเทคโนโลยีมากมายที่อัดมาในตัวเลนส์แล้ว ท่านยังสามารถเลือก Option เสริม ให้เข้ากับ Lifestyle ของแต่ละคนได้หลายแบบ
Solitaire® Protect Plus 2 เป็น Standard Coating มาพร้อมด้วยคุณสมบัติการป้องกันเลนส์ ไม่ว่าจะเป็นการป้องกันรอยขีดข่วน ป้องกันแสงUV ลดแสงสะท้อน ป้องกันไฟฟ้าสถิตย์ ลดการเกาะของหยดน้ำ ทนทานในทุกสภาพอากาศ ป้องกันฝุ่นเกาะและป้องกันการเกิดฝ้า(ใช้ร่วมกับผ้า FogFree)
X-tra clean เพิ่มการ Coating ขั้นสูงที่แข็งแรงมากยิ่งขึ้น ช่วยกันรอย คราบฝุ่น รอยนิ้วมือ การเกาะตัวของหยดน้ำ และเช็ดทำความสะอาด ดูแลผิวเลนส์ได้อย่างง่ายดาย
Solitaire® Protect Balance 2 ช่วยกรองแสงสีฟ้าที่มาจากอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เช่น คอมพิมเตอร์ สมาร์ทโฟน เป็นต้น
Solitaire® Protect Sun 2 สามารถย้อมสีเป็นแว่นกันแดด
Polarized เลนส์เคลือบ Polarized เป็นเลนส์ทางเลือกสำหรับทุกสภาวะแสง ช่วยลดแสงฟุ้งกระจายและเพิ่มความคมชัด เหมาะสำหรับกิจกรรมกลางแจ้ง
ColorMatic IQ® 2 สีใสเมื่ออยู่ในร่มและเปลี่ยนสีเมื่อออกแดดหรือทำกิจกรรมกลางแจ้ง โดยเปลี่ยนระดับความเข้มของสีเลนส์ตามระดับความเข้มของแสง UV อย่างอัจฉริยะ
ColorMatic IQ® Sun 2 ย้อมสีเป็นแว่นกันแดดแล้วปรับเปลี่ยนเพิ่มความเข้มสีตามระดับของแสง UV อีกที เพื่อการป้องกันดวงตาจากแสงแดดได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด
Mirror Coating เลนส์ฉาบปรอท เพิ่มความโดดเด่นด้วยสีปรอทที่ทันสมัย
Multigressiv Myview®2 กับผู้ใช้งานจริง
จากค่าสายตาของลูกค้า
สายตายาว สายตาเอียง องศาเอียง
R +1.25 -0.50 110
L +0.75 -0.50 70
สายตายาวตามวัย (Addition) +2.50
PD ตาขวา 32.2
PD ตาซ้าย 32.8
ค่าพารามิเตอร์ของกรอบแว่นที่เหมาะสม
ก่อนอื่นต้องขอแนะนำว่า Multigressiv Myview®2 ของ Rodenstock นี้มีการออกแบบโครงสร้างของเลนส์โปรเกรสซีฟได้เหมาะสมและมีประสิทธิภาพการใช้งานสูงสุดกับกรอบแว่นตาที่มีค่าพารามิเตอร์ดังนี้
มุมเทหน้าแว่น (Pantoscopic Tilt) ที่ 7 องศา
ความห่างจากเลนส์ถึงกระจกตา (Cornea Vertex Distance) ที่ 12 มิลลิเมตร
ความโค้งหน้าแว่น (Face Form Angle) ที่ 5 องศา
ค่าพารามิเตอร์ของกรอบแว่นที่ลูกค้าท่านนี้เลือก
มุมเทหน้าแว่น (Pantoscopic Tilt) ที่ 7 องศา
ความห่างจากเลนส์ถึงกระจกตา (Cornea Vertex Distance) ที่ 12 มิลลิเมตรความโค้งหน้าแว่น (Face Form Angle) ที่ 6 องศา
จากการที่ลูกค้ามีค่าสายตาเอียง มีค่าสายยาวตามวัยเยอะ และเลือกกรอบแว่นที่มีพารามิเตอร์สอดคล้องกับพารามิเตอร์เลนส์โปรเกรสซีฟ Multigressiv Myview®2 ของ Rodenstock ต้องการ ดังนั้นแน่นอนว่าเลนส์ที่เหมาะสมและคุ้มค่าที่สุดที่จะมาช่วยแก้ไขค่าสายตาของลูกค้าท่านนี้พร้อมกับกำจัดปัญหา Base curve effect ได้อย่างสมบูรณ์เพื่อให้ได้โซนการมองเห็นที่ดีที่สุดกว้างและมีประสิทธิภาพจึงตกเป็นของ Multigressiv Myview®2