วันนี้หมอจีนนักทัศนมาตรประจำร้านแว่นตา Sunglass365 Optical Store จะมาแนะนำเลนส์โปรเกรสซีฟที่ขายดีประจำร้านกัน เลนส์ที่ขายดีจะมีตั้งแต่ตัวเริ่มต้นไปจนถึงรุ่นท็อป โดยในบทความนี้นอกจากจะแนะนำเลนส์ที่ขานดีแล้วเรายังเปรียบเทียบเลนส์ในช่วงงบประมาณใกล้ๆกันว่าเลนส์แต่ละตัวเหมาะกับใครและการใช้งานแบบไหนบ้าง เป็นความโชคดีที่ร้านเราจะไม่ได้เน้นขายยี่ห้อใดยี่ห้อหนึ่งทำให้เราสามารถเทียบจุดเด่นจาก Feedback ของลูกค้าในแต่ละยี่ห้อได้ แน่นอนว่าแต่ละยี่ห้อก็มีจุดเด่น มีโครงสร้างที่ต่างกันออกแบบมาตอบโจทย์ค่าสายตาและการใข้งานที่แตกต่างกันด้วย
1. Nikon Presio Power
จุดเด่นจุดแรกของเลนส์ตัวนี้คือความใสด้วย Premium Coating อย่าง Seecoat Next ที่มีอยู่ในเลนส์ Nikon ทุกคู่ โดยจะช่วยให้มองเห็นภาพใส คมชัด นอกจากนี้รุ่นนี้ยังใช้เทคโนโลยีการผลิตแบบ Softening Filter Double Surface Design ที่ให้การมองภาพที่นุ่มนวล ภาพบิดเบือนน้อย ปรับตัวได้รวดเร็ว ประสิทธิภาพดีแม้จะมี Addition เยอะก็ตาม ถือได้ว่าเป็นรุ่นในราคาระดับกลางที่คุ้มค่ากับราคามากที่สุด
เหมาะกับคนที่ต้องการเลนส์โปรเกรสซีฟที่ปรับตัวได้ง่าย ภาพวูบวาบน้อยแม้จะใส่ครั้งแรก หรือเคยใส่โปรเกรสซีฟแล้วล้มเหลมมาก่อน หรือใครที่เีิ่มใส่ตอนอายุเยอะแล้ว ตัวนี้เป็นเลนส์ราคาระดับกลางที่ใส่ง่ายสุดเลยก็ว่าได้
ราคาเริ่มต้น 16,900 บาท (ยังไม่รวมส่วนลดพิเศษเพิ่มเติมของทางร้านน้า)
2. Essilor ComfortMAX
เป็นเลนส์โปรเกรสซีฟระดับกลางรุ่นล่าสุดที่ถูกพัฒนาต่อยอดมาจากรุ่น Comfort 3.0 โดยรุ่นนี้จะถูกแบบมาให้เข้ากับสรีระและท่วงท่าในทุกกิจกรรมโดยคำนึงถึง Lifestyle ในยุคดิจิทัล เพิ่มพื้นที่ใช้งานในระยะใกล้และกลาง อีกทั้งยังจัดการ Distortion ได้ดียิ่งขึ้น ทำให้ได้มุมมองที่กว้าง คมชัดและสบายตา ตอบโจทย์การใช้ SmartPhone และ Tablet อีกทั้งมาพร้อมกับ BLUEUV CAPTURE ช่วยปกป้องแสงสีฟ้าจากหน้าจอโดยที่ตัวเลนส์ยังคงความใส ไม่ติดเหลืองเหมือนเลนส์ตัดแสงสีฟ้าทั่วไป
เหมาะกับคนที่ใช้งานอุปกรณ์ดิจิทัลไม่ว่าจะเป็น Notebook Smartphone ต้องการมุมมองระยะกลางและใกล้ที่กว้างกว่าปกติ ตัวนี้มุมมองกลางและใกล้จะกว้างกว่าเลนส์โปรเกรสซีฟที่ระดับราคาเดียวกัน ใครที่ใช้ระยะกลางเยอะเช่น ขับรถ ทำอาหาร ออกกำลังกาย หรือกิจกรรมต่างๆในระยะประมาณช่วงแขน ตัวนี้ตอบโจทย์เลยสำหรับเลนส์โปรเกรสซีฟในราคาระดับกลาง
ราคาเริ่มต้น 15,000 บาท (ยังไม่รวมส่วนลดพิเศษเพิ่มเติมของทางร้านน้า)
3. Nikon Presio First
จุดเด่นของรุ่นนี้คือเป็นเลนส์โปรเกรสซีฟรุ่นเริ่มต้นที่เรียกได้ว่าคุณภาพคุ้มค่ากับราคามากที่สุดในตลาด โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับเลนส์โปรเกรสซีฟในเรทราคาระดับเดียวกันตัวนี้จะมีความโดดเด่นมากกว่าใคร ด้วย NIKON SEECOAT NEXTเป็นสารเคลือบผิวเลนส์ระดับพรีเมี่ยม แม้ตัวนี้จะเป็นตัวเริ่มต้นแต่ก็ได้ COATING ตัวดีที่สุดเหมือนกับรุ่นพี่ อีกทั้งยังมี Corridor ให้เลือกถึง 3 ค่า ตามลักษณ์การใช้งาน และมีออฟชั่นให้เลือกตอบโจทย์กับการใช้งานในปัจจุบัน
เลนส์ตัวที่เหมาะกับคนที่ตั้งงบไว้จำกัด ต้องการโปรเกรสซีฟตัวเริ่มต้นที่คุ้มค่าคุ้มราคามาก เอาไปใช้มองไกลและมองใกล้เป็นหลักเพราะระยะกลางจะแคบกว่าโปรเกรสซีฟรุ่นอื่นในรีวิว แต่ถ้าเทียบค่าตัวแล้วคุ้มค่ามากๆ
ราคาเริ่มต้น 7,900 บาท (ยังไม่รวมส่วนลดพิเศษเพิ่มเติมของทางร้านน้า)
4. Essilor Varilux X series
เลนส์โปรเกรสซีฟระดับ Premium ตัวท็อปสุดของ ESSILOR ออกแบบโครงสร้างโดยคำนึงถึงสรีระของดวงตาเพื่อพื้นที่การมองที่กว้างขวาง ขจัดภาพบิดเบือนให้เหลือน้อยที่สุด มองเห็นได้อย่างคมชัดในทุกระยะ สามารถเปลี่ยนระยะโฟกัสการมองได้อย่างรวดเร็วและนุ่มนวลที่สุด อีกจุดเด่นที่สำคัญก็คือระยะกลางที่กว้างกว่าโปรเกรสซีฟรุ่นอื่นๆตอบโจทย์การใช้งานยุคดิจิทัลได้อย่างสมบูรณ์แบบ คำนึงถึงสรีระ ท่าทางและพฤติกรรมการใช้งาน ลดการก้มเงยของศีรษะในการหามุมมองที่ถูกตำแหน่ง และสามารถรองรับค่าสายตาที่ซับซ้อนรวมถึง Addition สูงๆได้
เลนส์ตัวนี้เหมาะกับทุกคนที่ใส่โปรเกรสซีฟ ด้วยมุมมองที่กว้าง ภาพบิดเบือนน้อย มีภาพนุ่มนวล ปรับตัวง่าย เรียกได้ว่าเลนส์โปรเกรสซีฟตัวนี้ไม่มีข้อเสียเลย เป็นตัวที่ออกแบบมาได้อย่าง Balance มากที่สุดในตอนนี้ ที่จริงแล้ว Varilux X series อาจไม่ใช่เลนส์ที่ภาพบิดเบือนน้อยสุด มุมมองกว้างที่สุด แต่ตัวนี้ถูกออกแบบมาได้สมดุลสุดใช้งานในทุกๆด้านไม่ว่าจะเป็นการใช้งานระยะกลาง ใกล้ ไกล ความนุ่มนวลที่ดี ความคมชัดที่ดีในทุกสภาวะแสง ทุกอย่างไปด้วยกันได้อย่างลงตัว
ราคาเริ่มต้น 32,700 บาท (ยังไม่รวมส่วนลดพิเศษเพิ่มเติมของทางร้านน้า)
5. Nikon Presio Master
เป็นรุ่นอัพเกรดขึ้นมาจาก Presio Power มาพร้อมเทคโนโลยี Deformation Tuner และ Binocular Tuner ที่ช่วยให้มุมมองกว้างขึ้น ลดภาพบิดเบือน ภาพวูบวาบด้านข้าง ปรับสมดุลการมองเห็นของตาขวาและตาซ้าย ช่วยให้การปรับตัวเป็นไปได้อย่างง่ายดายและรวดเร็ว มองเห็นได้อย่างสบายตาและเป็นธรรมชาติ รองรับค่าสายตาสูงหรือแม้กระทั่งในคนที่ค่าสายตาสองข้างแตกต่างกัน ใครที่ต้องการเลนส์โปรเกรสซีฟที่มุมมองกว้าง ปรับตัวง่าย เน้นความนุ่มนวลสบายตา ตัวที่คือคำตอบเลย
ตัวนี้เป็นเลนส์โปรเกรสซีฟที่ปรับตัวง่ายที่สุด ต่อยอดมาจากรุ่น Presio Power ใครกำลังมองหาโปรซีฟที่เรียกว่าใส่แล้วแทบจะปรับตัวได้เลยทันทีที่สวมใส่ ตัวนี้ตอบโจทย์แน่นอน ภาพบิดเบือนน้อยสุดๆ เหมาะกับคนที่อยากใส่โปรเกรสซีฟแล้วไม่ต้องปรับตัว ไม่เวียน และสามารถรองรับค่าสายตาทั้ง 2 ข้างแตกต่างกันได้เป็นอย่างดี
ราคาเริ่มต้น 25,900 บาท (ยังไม่รวมส่วนลดพิเศษเพิ่มเติมของทางร้านน้า)
6. Soltes wide
ตัวนี้ไม่ใช่เลนส์โปรเกรสซีฟแต่เป็นเลนส์เฉพาะทาง ที่ออกแบบมาตอบโจทย์คนที่มีปัญหาสายตายาวตามอายุ ที่ต้องการใช้งานระยะใกล้ถึงกลางได้กว้างอย่างไม่มีขีดจำกัด คมชัดภายในพริบตาเดียว ออกแบบเฉพาะบุคคลให้ผู้ใช้งานสามารถเลือกระยะการใช้งานได้ด้วยตัวเอง
ตัวนี้เป็นเลนส์ประเภท Degressive ที่มีค่า Deg ให้เลือกที่สุดในตลาดตั้งแต่ 1.00 1.50 2.00 และ 2.50 เลย ทำให้นักทัศนมาตรของเราสามารถจ่ายเลนส์รุ่นนี้ให้เหมาะสมกับการใช้งารเฉพาะบุคคลได้จริงๆ ใครที่กำลังมองหาเลนส์เฉพาะทางใกล้กับกลางคมชัด มุมมองกว้าง ตัวนี้ตอบโจทย์แน่นอน
ราคาเริ่มต้น 5,900 บาท (ยังไม่รวมส่วนลดพิเศษเพิ่มเติมของทางร้านน้า)
7. Rodenstock Myview 2
เลนส์คุณภาพเยี่ยมจากเยอรมัน ที่หากพูดถึงเลนส์แว่นตาระดับ HI-END คงไม่มีใครไม่รู้จักแบรนด์ Rodenstock สำหรับรุ่น Myview นี้เป็นรุ่นระดับกลางค่อนไปทางบนที่ได้เทคโนโลยีครบถ้วนที่สุด พร้อมกับมีการคำนวณ PD Optimize Inset ให้เหมาะสมและเฉพาะบุคคลมากขึ้น ได้พื้นที่การใช้งานในระยะต่างๆกว้างขึ้น ใช้งานได้เป็นธรรมชาติมากขึ้น นอกจากนี้ยังมีเทคโนโลยี Unique Customization ที่เรียกได้ว่าเป็นเทคโนโลยี Fully power-optimized progressive lens ซึ่งสามารถจัดการ Base curve effect ในค่าสายตาสั้น ยาว และเอียงได้อย่างเต็มที่และสมบูรณ์แล้วขัดด้วยเทคโนโลยี Freeform ที่มีความแม่นยำสูง ทำให้โครงสร้างที่ได้ดีเยี่ยมในทุกค่าสายตา
หากใครต้องการเลนส์ที่คุณภาพดีเป็นคนที่ไม่มีปัญหาด้านการปรับตัวกับเลนส์โปรเกรสซีฟ ตัวนี้จะให้มุมมองกว้าง มองไกลคมชัดเป็นพิเศษ รองรับได้ทุกค่าสายตา
ราคาเริ่มต้น 19,900 บาท (ยังไม่รวมส่วนลดพิเศษเพิ่มเติมของทางร้านน้า)
8. Zeiss Smartlife Progressive PLUS / PLUS Asiana
เชื่อว่าหลายคนคงเคยได้ยินชื่อแบรนด์ Carl Zeiss มาก่อนไม่ว่าจะเป็นในวงการเครื่องมือแพทย์ เลนส์กล้องถ่ายรูป หรือแม้กระทั่งกล้องที่ NASA เลือกใช้ เป็นแบรนด์เลนส์โปรเกรสระดับ Hi-End จากเยอรมันเช่นเดียวกันกับแบรนด์ Rodenstock โดยรุ่นนี้มีการเพิ่ม Digital Inside Technology ที่ดีไซน์โครงสร้างเลนส์ให้เหมาะกับพฤติกรรมการมองใกล้ทั้งการอ่านหนังสือ และการอ่านผ่านอุปกรณ์ดิจิทัล เช่น สมาร์ทโฟน แท็ปเลต ทำให้หาระยะมือถือได้ง่าย สบายตา ไม่ต้องเงยหน้าอีกต่อไป อีกทั้งช่วยลดการเพ่งจากการใช้งานดิจิทัล และให้ภาพคมชัดขึ้น รวมไปถึง FrameFit+® Technology ที่ออกแบบโครงสร้างเลนส์ให้เข้ากับกรอบของผู้ใช้ โดยที่เลนส์ยังคงความชัดเจนในทุกระยะการมอง ทำให้คุณสามารถเลือกกรอบแบบใดก็ได้ตามใจชอบ ไม่ว่าจะเป็นกรอบแฟชั่น กรอบทรงสปอร์ตต่างๆ นอกจากนี้ยังสามารถเลือก Corridor ได้อย่างอิสระในระดับทศนิยมเพื่อให้ตรงกับความต้องการการใช้งานสูงสุด
ราคาเริ่มต้น 24,000 บาท (ยังไม่รวมส่วนลดพิเศษเพิ่มเติมของทางร้านน้า)