แสงสีฟ้า คือ แสงที่มองเห็นได้ และ มีความยาวคลื่นสั้น พลังงานสูงใกล้เคียงกับรังสีอัลตราไวโอเลต (UV) ซึ่งแสงที่เรามองเห็นได้จะอยู่ที่ช่วงความยาวคลื่นประมาณ 400-700 nm โดยแสงสีฟ้าอยู่ที่ช่วงประมาณ 380-480 nm นั่นเอง แสงสีฟ้าที่เป็นโทษ จะอยู่ในช่วงคลื่นที่ 415-455nm จะเป็นแสงที่ส่งผลเสียทำให้จอประสาทตาเราค่อยๆ เสื่อมลงได้ หากรับเข้าสู่ตาในปริมาณที่มากเกินไปสามารถส่งผลเสียต่อจอประสาทตาเสื่อมได้
ประโยชน์และโทษของแสงสีฟ้า
Blue-Turquoise Light (แสงสีฟ้าจากดวงอาทิตย์ช่วงเช้า) แสงสีฟ้าที่เป็นประโยชน์ แสงสีฟ้าช่วงนี้มีข้อดีคือมันจะทำงานร่วมกับ bio clock หรือนาฬิกาชีวภาพของเรา เช่นบางทีในตอนเช้าพระอาทิตย์เริ่มขึ้น แสงยังไม่ทันสว่างแต่ทำไมเราตื่นนอน นั่นเพราะแสงสีฟ้าชนิดนี้ที่มาปลุกให้เราตื่นนอน กระตุ้นให้อวัยวะส่วนต่างๆ ของเราทำงาน
Blue-Velvet Light (แสงสีฟ้าจากดวงอาทิตย์ช่วงบ่าย-เย็น) แสงสีฟ้าที่มีโทษ แสงสีฟ้าช่วงนี้มาพร้อมกับความรุนแรงในการทะลุทะลวงสูง ซึ่งส่งผลต่อร่างกายคือ สามารถทะลุถึงจอประสาทตาด้านในทำให้เกิดโรคจอประสาทตาเสื่อม และเมื่อร่างกายได้รับแสงสีฟ้าช่วงนี้มากเกินไปจะส่งผลให้ร่างกายไม่สร้าง Melatonin สารแคมีที่ช่วยในการนอนหลับทำให้พักผ่อนไม่เพียงพอการหลั่งแคมีในร่างกายผิดเพี้ยน ทำให้ไขมันสะสมเกิดโรคร้ายต่างๆมากมาย เช่น โรคหัวใจ,เบาหวาน และมะเร็ง
ปัจจุบันมีหลายวิธีในการป้องกัน Blue Light อยู่หลายช่องทาง เช่นการใส่แว่นสายตาสำหรับป้องกันรังสี Blue Light ติดฟิล์มป้องกัน ณ จอแสดงผลต่างๆ ในปัจจุบันเลนส์กรองแสงสีฟ้าเริ่มเป็นที่รู้จักและนิยมใช้กันมากขึ้น เทคโนโลยีของเลนส์กรองแสงสีฟ้าปัจจุบันมีทั้งแบบเคลือบบนผิวเลนส์และการทำในเนื้อเลนส์ที่เป็นเทคโนโลยีล่าสุด ซึ่งมีหลายค่ายเลนส์ให้เลือกซื้อด้วยกัน
วันนี้แอดมินยกตัวอย่างเลนส์ที่เป็นเทคโนโลยีการกรองแสงสีฟ้าในเนื้อเลนส์ล่าสุด คือ
Essilor Blue UV Capture นวัตกรรมใหม่ในการปกป้องดวงตาจากแสงสีน้ำเงินชนิดอันตราย ด้วยฟีเจอร์ล่าสุดที่มาพร้อมกับคุณสมบัติดูดซับช่วงคลื่นแสงที่เป็นอันตรายในวัสดุเนื้อเลนส์ เลนส์จึงยังคงความใส ไม่ทำให้การมองเห็นสีผิดเพี้ยน และยังยอมปล่อยแสงสีฟ้าที่ดีเป็นประโยชน์เข้าสู่ดวงตา

ประโยชน์ Blue UV Capture
- ป้องกันแสงสีน้ำเงินชนิดอันตราย โดยกรองเฉพาะแสงสีน้ำเงินอมม่วงที่เป็นอันตราย แต่จะปล่อยให้แสงที่เป็นประโยชน์ผ่านเข้ามา
- สมดุลระหว่างการกรองแสงและคงคุณสมบัติเลนส์ใส เลนส์จะมีความความใส ไม่ทำให้การมองเห็นสีผิดเพี้ยน
- ป้องกันยูวี ปกป้องดวงตาจากรังสียูวี ทั้งด้านหน้าและด้านหลังของเลนส์
ซึ่งทั้งหมดนี้ช่วยป้องกันแสงสีน้ำเงินที่เป็นอันตรายได้มากกว่าเลนส์ทั่วไปถึง 3 เท่า และปกป้องเลนส์จากศัตรูความใสทั้ง 7 ประการ ทั้งลดรอยขีดข่วน ลดแสงสะท้อน ลดรอยนิ้วมือ ลดฝุ่นเกาะบนผิวเลนส์ ลดปัญหาหยดน้ำเกาะ พร้อมป้องกันรังสียูวีและแสงสีน้ำเงินชนิดอันตราย
แอดมินขอแนะนำ 5 วิธีป้องกันแสงสีฟ้า
1.ใช้หลักการ 20/20/20 เวลาใช้มือถือ หรือ คอมพิวเตอร์นาน ๆ ควรพักทุก 20 นาที มองสิ่งของรอบตัวที่อยู่ห่างประมาณ 20 ฟุต เป็นระยะเวลา 20 วินาที จะช่วยให้ลดความล้าของดวงตาลงได้ ก่อนที่จะกลับไปใช้อุปกรณ์ดิจิตอลอีกครั้ง
2.ใช้น้ำตาเทียม ทำให้ดวงตาไม่แห้งด้วยการหยอดน้ำตาเทียมในทุก 2 ชั่วโมง ไม่ลืมที่จะกะพริบตาบ่อย ๆ ในขณะที่ใช้มือถือ หรือ คอมพิวเตอร์เป็นระยะเวลานาน
3.ปรับแสงสว่างและความคมชัดของหน้าจอให้รู้สึกสบายตา หรือสังเกตได้ง่าย ๆ จากการที่เราไม่ต้องหรี่ตาเวลามองหน้าจอ รวมทั้งพยายามลดแสงสว่างบริเวณรอบๆ เช่น ปิดไฟดวงที่สะท้อนลงบนหน้าจออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์
4. กะพริบตาบ่อย ๆ ควรกะพริบตาให้ได้ 1-2 ครั้งต่อ 10 วินาที เพื่อให้มีน้ำหล่อเลี้ยงดวงตาอยู่เสมอ วิธีนี้จะช่วยลดความอ่อนล้าของสายตาได้มาก
5.ใช้แว่นกรองแสงหรือใช้แว่นถนอมสายตาเพื่อลดแสงสีฟ้าในขณะใช้อุปกรณ์ดิจิตอล หรือ ในช่วงที่ต้องทำงานหน้าจอเป็นระยะเวลานาน เพื่อให้รู้สึกสบายตาในขณะทำงานยิ่งขึ้นลดการการตาล้า
หากลูกค้าสนใจเลนส์ป้องกันแสงสีฟ้าสามารถสอบถามแอดมินหรือแวะเข้ามาตรวจเช็คสายตาที่ร้านได้เลยน้า ที่ร้านมีเลนส์ป้องกันแสงสีฟ้าของทุกแบรนด์ให้ลูกค้าเลือกตามความชอบและงบประมาณ ไม่ว่าจะเป็น HOYA ESSILOR NIKON RODENSTOCK ZEISS เป็นต้น
OD, PANADDA JONGSUNGNERN